เมื่อพูดถึง เทปคาสเซ็ตต์ เด็กรุ่นใหม่ๆ คงแทบจะนึกไม่ออกเลยว่าหน้าตาเป็นยังไง หรือถ้านึกออก เทปคาสเซ็ตต์ ก็คงเป็นเพียง ฟอร์แม็ตต์ หรือรูปแบบการฟังเพลง สุดเชย ที่ตกยุค ไปไหนต่อไหนแล้ว
แต่สำหรับใครที่เกิดทันยุค เทปคาสเซ็ตต์ คงพอจะจำได้ว่า เจ้าตลับสี่แหลี่ยมผื่นผ้ามีรูกลมๆ สองรูนี่แหละ คือช่องทางหลักที่ศิลปิน ตลอดจนค่ายเพลงทั้งหลายส่งผลงานของตัวเองสู่คนฟัง และในยุคนั้นเราวัดความสำเร็จของศิลปินทั้งหลายด้วยจำนวนตลับที่ขายได้ เช่น เราคงเคยได้ยินว่า ศิลปินคนนั้น วงดนตรีวงนี้ ทำยอดขายทะลุล้านตลับ เป็นต้น

เมื่อวันวานผ่านพ้นไป เทคโนโลยีในการบันทึกเสียงพัฒนาขึ้น เทปคาสเซ็ตต์ ถูกทดแทนด้วย ซีดี และซีดี ก็ถูกแทนที่ด้วย mp3 จนเข้าสู่ยุคปัจจุบันที่ mp3 ก็กำลังถูกทดแทนด้วยรูปแบบในการฟังเพลงที่เรียกว่า สตรีมมิ่ง
ซึ่งนั่นเป็นเหตุให้เราแทบจะมองไม่เห็นช่องทางเลยว่า เทปคาสเซ็ตต์ จะกลับมาเป็นที่นิยมของคนฟังเพลงได้ยัง
แต่ช้าก่อน! เพราะสิ่งที่หลายคนคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ มันกำลังจะเป็นจริง! ใช่แล้วครับ เทปคาสเซ็ตต์ กำลังจะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง!!!

และผู้ที่ทำให้ เทปคาสเซ็ตต์ เริ่มกลับมาเป็นที่สนใจของคนฟังเพลงอีกครั้ง คือ หนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง The Guardians of the Galaxy
อ๊ะ อ๊ะ อย่าเพิ่งงงว่า The Guardians of the Galaxy มันไปเกี่ยวกับ เทปคาสเซ็ตต์ ได้ยังไง?
เรื่องของเรื่องก็คือ ใครที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ คงพอจะจำได้ว่า ปีเตอร์ พระเอกของเรื่องมี มิกซ์เทป อยู่ม้วนหนึ่งที่เขาชอบฟังผ่านเครื่องวอล์คแมน และเพลงสุดโปรดที่พระเอกเปิดฟังในเรื่องนี่แหละได้ถูกรวบรวมไว้เป็นอัลบั้มซาวนด์แทร็ค Guardians of the Galaxy: Awesome Mix Vol. 1

แรกเริ่มเดิมที ก็ไม่ได้มีการวางแผนไว้หรอกว่าจะทำอัลบั้มซาวนด์แทร็คหนังเรื่องนี้เป็นเทปคาสเซ็ตต์ออกมาขาย แต่หลังจากที่ทำยอดขายขึ้นอันดับหนึ่งในบิลบอร์ดชาร์ตได้แบบไม่มีใครคิดฝัน ทางดิสนี่ย์สตูดิโอเจ้าของหนังเลยจัดการฉลองด้วยการทำซาวนด์แทร็คชุดนี้ออกมาขายในรูปแบบ เทปคาสเซ็ตต์ มันซะเลย แถมยังผลิตออกมาขายในแพ็คเกจที่มีรูปลักษณ์เดียวกับที่เราเห็นในหนังเป๊ะๆ ซะด้วย
ซึ่งผลปรากฏว่า Guardians of the Galaxy: Awesome Mix Vol. 1 ในแบบ เทปคาสเซ็ตต์ ที่เริ่มขายในปี 2014 จนถึงตอนนี้ทำยอดขายในอเมริกาสิริรวมไปแล้วถึง 11,000 ม้วน
และถึงแม้อาจจะไม่ใช่ยอดขายที่มากมายอะไร แต่นั่นก็ทำให้ศิลปิน ไปจนถึงค่ายเพลงทั้งหลายเหลียวกลับมามองว่า เทปคาสเซ็ตต์ ยังพอมีตลาดของมันอยู่ และมันก็ส่งผลให้ศิลปินหลายๆ คน วงดนตรีหลายๆ วง เริ่มผลิตอัลบั้มออกจำหน่ายในรูปแบบ เทปคาสเซ็ตต์ ด้วย เช่น อัลบั้ม Purpose ของ Justin Bieber และ อัลบั้ม Beauty Behind the Madness ของ The Weeknd โดยสองอัลบั้มนี้ทำยอดขายในอเมริกาไปชุดละเกือบ 1,000 ม้วน

นอกจากนี้ ยังมีการ reissues อัลบั้มคลาสสิคเก่าๆ ออกมาจำหน่ายในรูปแบบ เทปคาสเซ็ตต์ ด้วย เช่น The Slim Shady LP ของ Eminem (ขายในอเมริกาไป 3,000 ม้วน) The Revolution’s Purple Rain ของ Prince (ขายในอเมริกาไป 2,000 ม้วน)

ซึ่งถ้าเราดูจากตัวเลขที่สำรวจโดย Nielsen Music เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา ยอดจำหน่าย เทปคาสเซ็ตต์ ที่ขายได้ทั้งหมดในอเมริกาอยู่ที่ 129,000 ม้วน ซึ่งเป็นยอดขายรวมที่มากกว่าปี 2015 ที่ขายไปได้แค่ 74,000 ม้วน (ขณะที่แผ่นเสียงซึ่งตอนนี้กลับมาบูมอีกครั้ง ทำยอดขายในปี 2016 ไปทั้งหมดถึง 13.1 ล้านแผ่น)
จริงอยู่ที่ยอดจำหน่าย เทปคาสเซ็ตต์ ยังดูน้อยนิดเมื่อเทียบกับ ยอดขายในฟอร์แม็ตต์อื่นๆ แต่เราก็ต้องไม่ลืมว่า เทปคาสเซ็ตต์ เป็น ฟอร์แม็ตต์ ที่แทบจะตายไปแล้วจากสารบบของคนฟังเพลงทั่วโลก เพราะฉะนั้น การที่เราได้เห็น เทปคาสเซ็ตต์ กำลังค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมา แถมยอดขายยังมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นทุกปีๆ แบบนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากๆ แล้ว

ซึ่งส่วนหนึ่งเราคงต้องขอบคุณ The Guardians of the Galaxy ที่พวกเขาไม่ใช่แค่ ซูเปอร์ฮีโร่ ผู้กอบกู้โลกเท่านั้น แต่ยังกอบกู้ให้ เทปคาสเซ็ตต์ กลับมามีที่ยืนอีกครั้ง…
ป.ล. The Guardians of the Galaxy ภาค 2 กำลังจะเข้าฉายในเดือนเมษายนนี้ และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เชื่อว่าหนังเรื่องนี้คงจะทำอัลบั้มซาวนด์แทร็คเป็น เทปคาสเซ็ตต์ ออกมาจำหน่ายอีกเช่นเคย ซึ่งถ้าทำออกมาขายจริงๆ ต้องตามดูกันต่อว่ายอดขายจะไปได้สวยแค่ไหน?
โดย : Thomas Chon Hansen